จากตอนที่แล้วที่เราเล่าให้ฟังถึงการวิเคราะห์คุณภาพน้ำทางกายภาพและทางเคมีของสระว่ายน้ำของ BABY POOL ทุกสาขาไปแล้ว ตอนที่ 2 นี้ เราจะเล่าให้ฟังเกี่ยวกับการตรวจวัดคุณภาพน้ำทางชีวภาพกันค่ะ โดย BABY POOL ทุกสาขามีการเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อส่งวิเคราะห์ค่าแบคทีเรียต่างๆทุกสัปดาห์ เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำในสระของเราปลอดเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคกับน้องๆทุกคนค่ะ
การตรวจสอบคุณภาพน้ำทางแบคทีเรีย เป็นดัชนีที่จะบ่งชี้ถึงความสกปรกของน้ำ เนื่องจากมีหลายชนิดที่ก่อให้เกิดโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร เช่น ไทฟอยด์ บิด และอหิวาห์ ซึ่งสามารถตรวจพบได้ในอุจจาระ เมื่อถูกขับถ่ายปนเปื้อนลงสู่แหล่งน้ำจะถูกแพร่กระจายไปโดยมีน้ำเป็นสื่อ และจะมีผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของคนที่ใช้น้ำในแหล่งน้ำนั้น ดังนั้นในการตรวจสอบคุณภาพน้ำทางแบคทีเรีย จึงต้องวิเคราะห์หาชนิดและปริมาณของเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคต่างๆในน้ำ เชื้อแบคทีเรียที่กฎหมายกำหนดให้ตรวจได้แก่
1.โคลิฟอร์มแบคทีเรีย (Coliform bacteria)
2.ฟีคัลโคลิฟอร์มแบคทีเรีย (Fecal coliform bacteria)
3. Escherichia coli (E.Coli)
4.สแตปฟิโลค็อกคัส (Staphylococcus aureus)
5.ซูโดโมแนส แอรูจีโนซา (Pseudomonas aeruginosa)

โคลิฟอร์มแบคทีเรียคืออะไร?
โคลิฟอร์มแบคทีเรียเป็นแบคทีเรียที่พบอยู่ในสิ่งแวดล้อม (ดิน พืช และผัก) และสิ่งขับถ่ายของมนุษย์และสัตว์ แบคทีเรียกลุ่มโคลิฟอร์มนี้ไม่ก่อให้เกิดโรค แต่หากพบแบคทีเรียกลุ่มนี้ในน้ำมากๆ อาจจะแสดงได้ว่าแหล่งน้ำนั้นมีโอกาสที่จะมีเชื้อโรคบางชนิดปนเปื้อนอยู่ในแหล่งน้ำได้
โคลิฟอร์มแบคทีเรีย แบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงคุณภาพน้ำ และในแต่ละกลุ่มก็จะมีระดับความเสี่ยงในการก่อโรคต่างๆกัน
โคลิฟอร์มแบคทีเรียเป็นกลุ่มใหญ่ของแบคทีเรีย โดยที่ฟีคัลโคลิฟอร์มเป็นโคลิฟอร์มแบคทีเรียชนิดที่พบในสิ่งขับถ่าย ส่วน E.coli เป็นกลุ่มย่อยของฟีคัลโคลิฟอร์มแบคทีเรียซึ่งบางสายพันธุ์เป็นสาเหตุของโรคทางเดินอาหาร

ฟีคัลโคลิฟอร์มแบคทีเรีย
เป็นกลุ่มย่อยของโคลิฟอร์มแบคทีเรีย อาศัยอยู่ในลำไส้ของมนุษย์และสัตว์ หากตรวจพบฟีคัลโคลิฟอร์มแบคทีเรียในแหล่งน้ำ แสดงว่ามีความเสี่ยงที่จะมีเชื้อที่ก่อให้เกิดโรคในแหล่งน้ำนั้น

Escherichia coli (E.Coli)
เป็นกลุ่มย่อยของพีคัลโคลิฟอร์มแบคทีเรีย โดยทั่วไปแล้วเชื้อแบคทีเรีย E.coli ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ เนื่องจากเป็นเชื้อที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของมนุษย์และสัตว์อยู่แล้ว ยกเว้นบางสายพันธุ์ที่สามารถก่อให้เกิดโรคได้ โดยสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดโรคนั้นเป็นอันตรายอย่างมากกับเด็ก ทำให้เกิดอาการท้องร่วง และช็อกได้

สแตปฟิโลค็อกคัส ออเรียส (Staphylococcus aureus)
เป็นแบคทีเรียท่อนกลม ชีวิตอยู่ได้ในอากาศ ฝุ่นละออง ขยะมูลฝอย น้ำ อาหารและนม พบการปนเปื้อนมากในสัตว์ปีก เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์ประเภทนม เนย ครีมต่างๆ เป็นแบคทีเรียที่สร้างสารพิษ enterotoxins ทำให้เกิดอาการโรคท้องร่วง อาเจียนอย่างรุนแรง ชักกระตุก หนาวสั่น ช็อก บางรายอาจมีอาการปวดศีรษะ กล้ามเนื้อเป็นตะคริว ความดันเลือดผิดปกติ

ซูโดโมแนส แอรูจีโนซา (Pseudomonas aeruginosa)
เป็นเชื้อที่พบได้ในธรรมชาติทั่วไป เช่น ในน้ำ ดิน หรือต้นไม้ โดยจะมีความทนทานในสภาวะแวดล้อมต่างๆได้ดี ถือเป็นเชื้อที่ฉวยโอกาส เพราะจะไม่ค่อยทำให้เกิดโรคในคนที่มีสุขภาพดี แต่จะเกิดโรคได้ในคนที่อ่อนแอหรือคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือเชื้อเข้าสู่ร่างกายในบริเวณที่มีความต้านทานผิดปกติ ผิวหนังที่ถลอก และเยื่อเมือก

เรื่องโดย: ดร.ดนยภรณ์ พรรณสวัสดิ์ (อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม) คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง


10 เหตุผลดีๆที่เราควรพาสอนทารกและเด็กเล็กไปเรียนว่ายน้ำ

1. เด็กแรกเกิดและทารกที่อายุน้อยกว่า 1 ปี พร้อมที่จะยอมรับน้ำได้มากกว่าเด็กโต ความกลัวน้ำจะเกิดเมื่อเด็กอายุมากขึ้น ยิ่...

Read More

เด็กเกิดมาพร้อมกับความกลัวน้ำหรือไม่?

คำตอบคือ ไม่ ทารกที่กลัวน้ำนั้นมีน้อยมาก ทารกจะเกิดมาพร้อมสัมผัสด้านการวางตำแหน่งร่างกายที่สมบูรณ์ และรับรู้ถึงการขยับต...

Read More

สระน้ำระบบเกลือและระบบคลอรีนต่างกันอย่างไร?

สระน้ำเกลือใช่มั้ยคะ เติมคลอรีนมั้ยคะ? เป็นคำถามอีกคำถามที่คุณพ่อคุณแม่หลายท่านมักจะถามประกอบการตัดสินใจสมัครเรียนว่าย...

Read More